No Widgets found in the Sidebar

“นัท วันเดอร์เกิร์ล” นักสู้สาว MMA แห่ง ONE Championship เผยสเปกหนุ่มในอุดมคติต้องมีคุณสมบัติเด่นอย่างน้อย 2 ข้อ

แม้ตอนนี้นักสู้สาววัย 𝟐𝟑 ปี โฟกัสอยู่ที่การฝึกซ้อมเพื่อเตรียมผันตัวจากมวยไทยเข้าสู่สายการต่อสู้แบบผสมผสาน แต่ วันเดอร์เกิร์ล ก็ไม่ได้ปิดกั้นเรื่องของความรัก หากมีคุณสมบัติตรงตามที่ต้องการทั้ง 𝟐 ข้อ นั้นคือ สเปกของสาววันเดอร์เกิร์ล

“สำหรับวันเดอร์เกิร์ล ข้อแรกเขาต้องเข้าใจก่อนว่าเราเป็นนักมวยไม่สามารถที่จะทำอะไรตามใจได้ ต้องมีวินัย ไม่งั้นมันจะหลุดโฟกัส จะให้คุยโทรศัพท์จนดึกดื่นก็ไม่ได้ หรือรูปร่างก็ต้องมีกล้ามเนื้ออยู่แล้ว ใครจะมาบอกให้เราเปลี่ยนมันก็คงไม่ได้ เพราะฉะนั้นเขาต้องเข้าใจในชีวิตและอาชีพของนักมวยก่อน นั่นคือสิ่งที่สำคัญมาก”

“ส่วนข้อสองเขาต้องเข้าใจด้วยว่า นักมวยหญิงส่วนใหญ่ต้องมีคู่ซ้อมกับผู้ชาย ยิ่งถ้าซ้อมการต่อสู้ท่านอนทั้งมวยปล้ำหรือบราซิลเลียนยิวยิตสู ที่ต้องมีการสัมผัสตัว เขาต้องเข้าใจในจุดนี้ให้ได้ว่า มันเป็นแค่การซ้อมเท่านั้น ไม่ต้องคิดอะไรมาก”

ตอนนี้ น้องนัท กำลังซุ่มซ้อมฝึกหนักอยู่ที่ 𝑴𝒂𝒓𝒓𝒐𝒌 𝑭𝒐𝒓𝒄𝒆 ซึ่งเป็นต้นสังกัดใหม่ ภายใต้การดูแลของ “ริชาร์ด โกดอย” อดีตนักสู้ 𝑴𝑴𝑨 มืออาชีพ ที่รับบทเทรนเนอร์คอยช่วยถ่ายทอดวิชาอย่างเข้มข้นให้กับ วันเดอร์เกิร์ล
โดยเตรียมตัวลงศึกประเดิมกติกา 𝑴𝑴𝑨 ไฟต์แรก บนเวที 𝑶𝑵𝑬 พบกับ “เซบา บาโน” คู่ต่อกรจากอินเดีย ในศึก 𝑶𝑵𝑬 𝟏𝟓𝟕 : เพชรมรกต 𝑽𝑺 จิมมี ซึ่งจะถ่ายทอดสดในวันศุกร์ที่ 𝟐𝟎 พฤษภาคมนี้ สามารถติดตามรับชมการถ่ายทอดสดศึกนี้ 𝒀𝒐𝒖𝑻𝒖𝒃𝒆 เริ่มคู่แรกเวลา 𝟏𝟓.𝟑𝟎 น.

หลังจาก “แฟร์เท็กซ์” ปั้นนักมวยหญิงเก่งอย่าง “แสตมป์ แฟร์เท็กซ์” จนประสบความสำเร็จอย่างมหาศาลในเวทีระดับโลก วัน แชมเปียนชิพ มาคนหนึ่งแล้ว ก็ถึงคราวที่จะส่งสาว “วันเดอร์เกิร์ล แฟร์เท็กซ์” เปิดตัวศึกในประเทศบ้านเกิด 𝑶𝑵𝑬: 𝑵𝑶 𝑺𝑼𝑹𝑹𝑬𝑵𝑫𝑬𝑹 𝑰𝑰𝑰 โดยมีกำหนดออกอากาศวันที่ 𝟐𝟏 สิงหาคมนี้
แม้แฟนๆ อาจเคยเห็นฝีไม้ลายมือของเธอกันมาบ้างแล้ว แต่นี่คือไฟต์แรกที่เธอจะปรากฏตัวบนเวทีระดับโลก ภายใต้สีเสื้อค่ายใหญ่แห่งเมืองพัทยา ด้วยการเผชิญหน้ากับคู่แข่งสาวจากแดนจิงโจ้ “บรูค ฟาร์เรลล์” ในกติกามวยไทย 𝟑 ยก รุ่นสตรอว์เวต (ใหญ่กว่า แสตมป์ หนึ่งรุ่น) ซึ่งเราอยากให้คุณๆ ได้รู้จัก “น้องนัท วันเดอร์เกิร์ล” คนนี้ให้มากขึ้นกว่าที่คุณเคยรู้

ลูกไม้หล่นไม่ไกลต้น

บ้านนี้มีลูกสาว 2 คน วันเดอร์เกิร์ล เป็นคนโต ปัจจุบันอายุ 23 ปี มีน้องสาวชื่อ “ซุปเปอร์เกิร์ล” อายุ 18 ปี ซึ่งเป็นนักมวยเหมือนกัน พวกเธอเปรียบเสมือนต้นไม้หล่นไม่ไกลต้น เพราะตั้งแต่วันเดอร์เกิร์ลจำความได้ ก็ติดสอยห้อยตามพ่อไปดูมวยข้างเวทีเป็นประจำ เห็นภาพการชกมวยไทยจนติดตา แม้จะมีเลือดสาด แผลแตก เธอก็ไม่เคยกลัว

ซูเปอร์เกิร์ล – วันเดอร์เกิร์ล

 

“ตอนแรกๆ พ่อก็ฝึกมวยให้เล่นๆ ไม่ได้คิดว่าจะจริงจังอะไร และเห็นว่าเป็นเด็กผู้หญิงด้วย แต่ที่ไหนได้ สองพี่น้องกลับชอบจริงๆ แล้ววันหนึ่งจำได้ว่าสักประมาณ 𝟖 ขวบ วันเดอร์เกิร์ลก็เดินไปบอกพ่อว่า อยากขึ้นชกบนเวที แต่พ่อก็ไม่ยอม เพราะพ่ออยากให้ตั้งใจเรียนมากกว่า สุดท้ายคือต้องบีบน้ำตา พ่อถึงยอมให้เราชก”
“ผลไฟต์แรกแพ้ วันเดอร์เกิร์ลแพ้ที่เชิงมวย ตอนนั้นตลาดมวยหญิงมันยังไม่บูม ยิ่งมวยเด็กยิ่งแล้วใหญ่ มันก็คล้ายเด็ก ป.𝟑 ไปท้าต่อยกับเด็ก ม.ต้น”

วางแผนชีวิตใส่นวมสวมครุย

ด้วยเพราะไม่ค่อยมีการจัดแข่งขันมวยหญิง จึงทำให้ วันเดอร์เกิร์ล ต้องพักนวมไปหลายปี จนกระทั่งเธอเรียนอยู่ชั้น ม.𝟑 พ่อก็เริ่มเห็นว่า การเรียนอาจจะไม่ใช่ทางถนัดของลูกสาวคนนี้ พ่อจึงวางแผนให้เธอเข้าเรียนต่อในสถานศึกษาที่มีการสนับสนุนทุนนักกีฬาอย่าง มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา ทำให้เธอได้เรียนหนังสือและได้มีเวลาในการฝึกฝนมวยไทยอย่างจริงจัง

“ชื่อ วันเดอร์เกิร์ล คุณพ่อเป็นคนตั้งให้ ด้วยความที่พ่อเป็นครูสอนภาษาอังกฤษ และช่วงนั้นมีกระแสดนตรี 𝑲-𝑷𝑶𝑷 กำลังเป็นที่นิยมมากๆ โดยเฉพาะวงเกิร์ลกรุ๊ปอย่าง 𝑾𝒐𝒏𝒅𝒆𝒓 𝑮𝒊𝒓𝒍𝒔 พ่อเห็นว่าวงนี้กำลังดัง จึงเอามาใช้เป็นชื่อของลูกสาว”

สมัยเรียนอยู่มหาวิทยาลัยปีที่ 𝟐 วันเดอร์เกิร์ล คว้าความสำเร็จด้วยการเป็นแชมป์มวยไทยหญิงระดับประเทศรุ่น 𝟏𝟏𝟖 ปอนด์ อีกทั้งยังให้ความสนใจเข้าร่วมแข่งขันกีฬาการต่อสู้แบบผสมผสาน (𝑴𝑴𝑨) ในรายการของ “บิ๊กปลาย” จิติณัฐ อัษฎามงคล สมัยก่อนที่จะดำรงตำแหน่งประธาน วัน แชมเปียนชิพ ประเทศไทย ซึ่งรายการนั้นมีชื่อว่า “𝑰𝒈𝒏𝒊𝒕𝒆 𝑾𝒂𝒓𝒓𝒊𝒐𝒓 𝑪𝒉𝒂𝒎𝒑𝒊𝒐𝒏𝒔𝒉𝒊𝒑”

วันนั้น วันเดอร์เกิร์ล โดดเด่นจนไปเตะตา “เปรม บุษราบวรวงษ์” ผู้บริหารค่ายแฟร์เท็กซ์ จึงทาบทามให้เธอมาใช้สีเสื้อของค่าย โดยได้ฝึกซ้อมอยู่ในสังกัดเดียวกันกับไอดอลคนโปรดอย่าง “แสตมป์ แฟร์เท็กซ์” นักกีฬาหญิงแกร่งตัวแม่ยืนหนึ่งประเทศไทย แชมป์โลก 𝑶𝑵𝑬 มวยไทย รุ่นอะตอมเวต จึงไม่มีเหตุผลใดที่เธอจะปฏิเสธโอกาสใหญ่ในครั้งนี้

 

By mkwins