กว่าจะเป็นวัวชนตัวละแสน ตัวละล้าน ต้องดูแลยิ่งกว่าลูกในไส้ “วัวชน” หนึ่งในเอกลักษณ์ชื่อดังของภาคใต้ จะมีมูลค่าสูงถึงตัวละแสนละล้านบาทนั้น เจ้าของต้องประคบประหงมเป็นอย่างดี และยาวนานนับปี แถมยังใช้ทุนสูงมาก เพื่อให้วัวชนที่ดูแลอยู่ออกมามีคุณภาพดีที่สุด

และปัจจุบันนี้กระแสความนิยมของการชนโค หรือวัวชนนั้น เป็นหนึ่งในเอกลักษณ์กีฬาพื้นบ้านชื่อดังของภาคใต้ กำลังเป็นที่สนใจกันอย่างกว้างขวาง แต่กว่าที่วัวแต่ละตัวจะมีมูลค่าขึ้นไปสูงถึงหลักแสนหลักล้านบาทนั้น จะต้องผ่านการประคบประหงมมาเป็นอย่างดี แถมยังต่อเนื่องยาวนานนับปี จนถึงกับมีการเปรียบเปรยว่า “รักและดูแลยิ่งกว่าลูกเสียอีก” เพื่อให้สัตว์เจ้าพละกำลังชนิดนี้สามารถโค่นคู่ต่อสู้ลงได้ราบคาบในทุกสังเวียน

นายยรรยงค์ แก้วละเอียด เจ้าของค่ายวัวชนบ้านโพธิ์ ซอย 6 ในอำเภอเมืองตรัง บอกว่า วัวชนของตนทุกตัวจะต้องตื่นตั้งแต่ตี 5 เพื่อกินหญ้า แล้วพาไปเดินวิ่งออกกำลังกาย รวมทั้งฝึกเดินวง เดินขึ้นเนิน และแทงดิน เพื่อเพิ่มความฟิตให้มากที่สุด แล้วกลับมากินหญ้า อาบน้ำ และเช็ดตัว จากนั้นในช่วงบ่าย ก็ต้องพาไปเดินวิ่งออกกำลังกายอีกรอบ ก่อนพากลับมากินหญ้า อาบน้ำ และนอนพักยาวถึงเช้ามืด ซึ่งบางวันก็จะมีการให้อาหารเสริม นวดตัว และทำความสะอาดตามจุดต่างๆ เพิ่มเป็นพิเศษ เพื่อให้วัวชนมีความสมบูรณ์มากที่สุด

ทั้งนี้ ด้วยการขั้นตอนที่มากมาย และการดูแลที่แสนพิถีพิถัน ถึงแม้จะได้วัวชนที่ออกมามีคุณภาพดี แต่ก็ทำให้มีต้นทุนที่สูงไม่น้อย เฉพาะหญ้าที่ต้องให้พวกมันกินตัวละไม่น้อยกว่า 50 กิโลกรัม ก็มีค่าใช้จ่ายราวๆ วันละ 100-200 บาทแล้ว ยังไม่นับรวมค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าอาหารเสริม ค่ายา โดยเฉพาะค่าจ้างคนเลี้ยงวัววันละ 200-300 บาท จึงทำให้วัวชนแต่ละตัวมีค่าใช้จ่ายไม่ต่ำกว่าเดือนละ 1 หมื่นบาท ขณะที่รายได้ส่วนใหญ่จะมาจากการเดิมพัน นับตั้งแต่หลักพันไปจนถึงหลักล้าน ซึ่งขึ้นอยู่กับผลงานแพ้ชนะที่ผ่านๆ มา

และสำหรับวัวชนโดยทั่วไปเมื่อถึงวัยเจาะจมูก หรืออายุเกือบ 1 ปี จะมีมูลค่าประมาณตัวละ 1-2 หมื่นบาท ขึ้นอยู่กับคุณภาพของสายพันธุ์ กระทั่งอายุราว 5 ปี ก็เริ่มจะนำไปประลองกำลังตามสถานที่ต่างๆ ได้แล้ว และบางตัวที่มีความแข็งแรงสมบูรณ์สูง อาจจะชนได้ถึงอายุ 15 ปี ซึ่งแต่ละปีจะชนได้ประมาณ 3 ครั้ง ขึ้นอยู่กับบาดแผลจากการลงกรำศึกในแต่ละครั้งว่า รุนแรงมากน้อยแค่ไหน และอย่างไรก็ตาม วัวชนตัวที่เก่งๆ ยังสามารถสร้างรายได้ให้เจ้าของเพิ่มอีกทางหนึ่ง ด้วยการรับจ้างผสมพันธุ์ หรือรีดน้ำเชื้อ เพื่อนำไปผสมกับแม่วัวพันธุ์ดีต่อไป