1. 4 เกมที่เหลือของ หงส์แดง คือนัดชิงทุกนัด
ทราบกันดีว่า เชลซี ยังเหลือเพียง เอฟเอ คัพ ที่ยังมีลุ้นคว้าแชมป์เพียงรายการเดียวเท่านั้น และแน่นอนพวกเขาจะทุ่มเทสุดชีวิตให้กับเกม ๆ นี้ได้โดยที่ไม่ต้องกังวลใด ๆ เพราะสถานการณ์ในลีก สิงห์บลู
หงส์แดง 4 เกมที่เหลือพวกเขาจำเป็นต้องคว้าชัยมาให้ได้เท่านั้น เริ่มจากเกมนัดชิง เอฟเอ คัพ กับ เชลซี ต่อด้วยเกมลีกที่พวกเขายังตาม แมนฯ ซิตี้ อยู่ 3 คะแนนโดยต้องบุกไปเยือน เซาแธมป์ตัน และเปิดบ้านเจอ วูล์ฟแฮมป์ตัน ก่อนจะปิดท้ายในนัดชิงชนะเลิศ ยูฟ่า ดูบอลสด
2.เชลซี ก็ไม่น้อยหน้า ลูกากู “คัมแบ็ค”
ก่อนหน้าที่หลายคนคงเห็นตรงกันว่า โรเมลู ลูกากู เตรียมจะขึ้นแท่นเป็นอีกหนึ่งดีลสุดเฟลของ เชลซี ในฤดูกาลนี้ เนื่องจากผลงานอันย่ำแย่ทั้งฟอร์มการถล่มประตูที่หายไปแบบดื้อ ๆ
นับตั้งแต่ขึ้นเดือนพฤษภาคมมาดูเหมือนว่าความมั่นใจของเขาจะเริ่มกลับมาอีกครั้งจากผลงาน 3 ประตูใน 2 เกมหลังบวกกับการสวมวิญญาณจอมพลังที่สามารถพักบอลเก็บบอลและพลิกบอลเข้าไปยิงได้อย่างแข็งแกร่งตามแบบที่ควรจะเป็นได้อีกครั้ง
3.ซาลาห์ เงียบ ไม่เป็นไร เพราะ ดิอาซ กำลังมา
สำหรับตัวความหวังของ ลิเวอร์พูล อย่าง โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ที่ 16 นัดหลังรวมทุกรายการเจ้าตัวยิงไปได้เพียง 3 ประตูเท่านั้น ซึ่งไม่ใช่แค่ผลงานการถล่มประตูที่หดหายไป แต่ต้องบอกว่าการมีส่วนร่วมกับเกมรวมถึงความมั่นใจก็เห็นได้ชัดว่าลดน้อยลงกว่าช่วงต้นฤดูกาล
ทำให้ มาเน ต้องขยับโยกมาเล่นตรงกลางและก็ดูจะประสานงานกันได้เป็นอย่างดี ทำให้คาดว่า คล็อปป์ เองก็คงจะใช้งานทั้งสามคนดังกล่าวเป็นตัวความหวังในการล่าแชมป์ที่สองของฤดูกาลในเกมวันเสาร์นี้